ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ของโลกนี้ ก้าวหน้าไปมากครับ เพราะว่า เทคโนโลยีเสริมที่จะทำให้หุ่นยนต์เข้าใกล้ความเป็นจริง มันเก่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วซ๊พียู / Battery ที่เล็กลงแต่ใช้งานได้นานขึ้น / Sensor ที่แม่นยำมากขึ้น รวมไปถึงราคาที่ถูกลงกว่าเดิมมาก ทำให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เข้าใกล้ชีวิตคนเรามากขึ้นทุกที
ซึ่งตอนนี้เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ที่ว่า ก็มาถึงบ้านผมแล้วตัวนึงครับ ด้วยค่าตัว 21,900 บาท จ่ายเองแบบไม่ต้องมีใครจ้างมีรีวิว และขอเอาความรู้สึกในการใช้งานมาแบ่งปันกันซักหน่อย ว่าหลังจากใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง
แต่ผมก็ขอสารภาพตามตรงว่า วูบแรกที่ผมเห็นเจ้า iRobot Roomba ยังแอบนึกในใจว่า “โคตรติงต๊องเลย หุ่นตัวละ 2 หมื่นกว่าบาท วิ่งมุดๆในบ้าน มันจะดูดฝุ่นได้สะอาดแค่ไหนเชียวฟระ”
เมื่อรวมเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้ ทำให้ผมตัดสินใจที่จะซื้อ หุ่นยนต์ทำความสะอาดมาใช้งานในบ้าน ทั้งๆที่ในใจ ก็ยังแอบเสียวอยู่ว่า “เฮ้ย แล้วมันจะคุ้มค่าตัวที่จ่ายไปหรอฟระ”
ตอนนี้หุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ขายๆกันอยู่มีหลายยี่ห้อมาก ตั้งกะ ยี่ห้อแบบ Samsung , LG ไปจนถึงหุ่นยนต์จากจีน ที่มันวิ่งๆ วนๆ หมุนๆรอบห้องได้เหมือนกันเด๊ะ แต่ละตัวก็จะมีเทคโนโลยีในการทำความสะอาดไม่เหมือนกัน โดยทั่วไป มันจะมี Feature อยู่หลักๆประมาณ 2-3 อย่างด้วยกันครับ นั่นก็คือ
- วิ่งกลับไปชาร์จเองที่แท่นชาร์จได้ไหม
- ตั้งเวลาทำความสะอาดได้ไหม
- เทคนิคการทำความสะอาดเป็นยังไง??
ซึ่ง Feature หลัก 3 อย่างนี้จะเป็นตัวกำหนดราคาของเจ้าหุ่นที่มันมาขายในท้องตลาดนี่แหละครับ
แล้วทำไมผมซื้อ iRobot Roomba ล่ะ?
ถ้าใครที่ติดตามเรื่องของเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์มากหน่อย น่าจะคุ้นเคยกับบริษัท iRobot มาบ้าง เพราะบริษัทนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ช่วงปี 1990 โดยที่ทำงานด้านการพัฒนาหุ่นยนต์มาโดยตลอด และที่สำคัญ หุ่นที่พัฒนาจากบริษัทนี้ ออกมาปฏิบัติงานที่จริงจัง และซีเรียสกว่าที่เราคิด เพราะมันเป็นหุ่นยนต์ช่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดให้กับทหารครับ
พอเห็นเทคโนโลยีระดับทางการทหาร มาอยู่แบบ Home use แบบนี้ ผมก็เลยรู้สึกมั่นใจในการใช้งานมันขึ้นมาหน่อย ว่าหุ่นตัวนี้ ไม่น่าจะทำอะไรปาหี่ใส่เรานะ มันคงจะมีความสามารถคุ้มค่าตัวระดับนึงเลยล่ะ
หุ่นยนต์ทั้งหมดของ iRobot มีหลายหมวดด้วยกัน ตั้งแต่ หมวดดูดฝุ่น หมวดถูพื้น หมวดทำความสะอาดรางน้ำฝน หรือ ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ซึ่งตัวที่ขายดีสุดก็คือ Roomba ที่เป็นหมวดดูดฝุ่นนี่แหละครับ
ลองดูวีดีโอแกะกล่องกันก่อนนะครับ จะได้รู้ว่า ในกล่องเจ้า iRobot Roomba 760 นี่ มีของอะไรมาให้บ้าง
เอาล่ะครับ แกะกล่องภายในเสร็จแล้ว มาดูความสามารถของ iRobot Roomba 760 กันเลยครับว่ามันทำอะไรได้บ้าง ไปดูหน้าต่อไปเลย
ที่มา - http://www.freeware.in.th/
ที่มา - http://www.freeware.in.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น